เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
“ลูกค้า” ส่วนใหญ่ชอบการเฉาะลูกตาลให้เห็น มากกว่าการเฉาะที่บ้านแล้วเอามาวางขาย เพราะดูแล้วสดน่ากินกว่ากัน
วันที่ 9 พ.ค.65 เรื่องทำมาหากิน ขยัน อดทน สู้ทุกสถานการณ์ สามารถผ่านอุปสรรคได้ ยิ่งขยันหารายได้เสริม ยิ่งทำให้มีรายได้จุนเจือในครอบครัว หนึ่งตัวอย่างที่ผู้สื่อข่าวจังหวัดบุรีรัมย์ไปพบ
บริเวณริมถนนบ้านตะโก ต.ชุมแสง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ นายมนัส กติกา อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 13 ม.13 บ้านตะโก ต.ชุมแสง พาครอบครัวรวม 4 คน นำรถอีแต๊ก (รถไถนาเดินตามแบบพ่วง) ขนลูกตาลสด นั่งเฉาะเอาลอนลูกตาลอ่อน แล้วใส่ถุงมาวาง ขายริมถนนลาดยางหมู่บ้าน มีลูกค้าที่วิ่งรถผ่านไปมาและคนในหมู่บ้าน มาซื้อไม่ขาดสาย
นายมนัส เล่าว่า ครอบครัวมีอาชีพขายลูกตาลสด มานานกว่า 20 ปี โดยจะไปเหมาซื้อลูกตาลที่อยู่คาต้นตามหัวไร่ปลายนาของชาวบ้าน ในราคาต้นละ 300-500 บาท ขึ้นอยู่กับว่าตาลต้นนั้นดกแค่ไหน
จากนั้นก็จะขึ้นปีนเอาลูกตาลลงมา แล้วขนใส่รถอีแต๊ก มาเฉาะขายข้างถนนแบบสดๆ ลูกค้าส่วนใหญ่ชอบการเฉาะให้เห็นมากกว่าการเฉาะที่บ้านแล้วเอามาวางขาย เพราะดูแล้วสดน่ากินกว่ากัน
นายมนัส บอกด้วยว่า ฤดูหน้าเก็บลูกตาลอ่อน เป็นช่วงจะเป็นช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม หรือประมาณ 2 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่ว่างก่อนจะลงทำนาปีและเป็นช่วงที่มีรายได้เสริมในช่วงนี้เป็นอย่างดี
แต่ละวันจะมียอดขายวันละประมาณ 2,000-3,000 บาท ขึ้นอยู่กับจะเก็บมาได้มากน้อยแค่ไหน แต่เก็บมาเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย ถือเป็นไม้ผลที่ขายดี ที่มีคนเลียนแบบได้น้อย เพราะคนทำอาชีพนี้จะต้อง “ปีนต้นตาลเก่ง” เรียกว่าเป็นความสามารถเฉพาะตัวด้วย
เรืองรุจ วังแจ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.บุรีรัมย์