บริษัท ไทยลีก จำกัด แจ้งปรับเปลี่ยนสิทธิในการเข้าร่วมแข่งขัน ฟุตบอลรายการ ACL 2023/24 เป็น 2 ฤดูกาล ทำให้ บีจี ปทุมฯ ต้องลุ้นให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้า แชมป์ช้าง เอฟเอ คัพ เท่านั้น ส่วน อันดับ 3 อย่าง แบงค็อกฯ ลุ้นใหม่ฤดูกาลหน้า
บริษัท ไทยลีก จำกัด ขอแจ้งประกาศเรื่องการปรับเเปลี่ยนสิทธิการเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลรายการ AFC Champions League 2023/24 อันสืบเนื่องจากการปรับเปลี่ยนช่วงเวลาการแข่งขัน ในฤดูกาลใหม่ของ สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFC) ฤดูกาล 2023/24
การเปลี่ยนแปลงรอบฤดูกาลแข่งขันครั้งใหม่ของ สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFC) ในฟุตบอลรายการ AFC Champions League จะเกิดขึ้นหลังจากสิ้นสุดฤดูกาล 2022 ช่วงเดือนปลายเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2023 โดยสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย จะหยุดการแข่งขัน เพื่อรอและปรับรูปแบบ และปฏิทินการแข่งขันฤดูกาลใหม่ (2023/24) ในเดือนสิงหาคม ปี 2023 เป็นแบบเตะคร่อมปี
จากเหตุการณ์ดังกล่าว สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFC) ต้องการให้ชาติสมาชิกจัดสรรโควต้าสำหรับคัดเลือกสโมสรให้พร้อมสำหรับการเข้าร่วมแข่งขัน เพื่อให้เป็นไปตามปฏิทินการแข่งขันใหม่โดยพร้อมเพรียงกันในฤดูกาล 2023/24
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อรอบฤดูกาลของหลายประเทศสมาชิก (ที่จะมีผลชนะเลิศการแข่งขัน 2 ครั้ง) ซึ่งในการนี้จึงมีการหารือสรุปแนวทางออก เพื่อให้ทุกลีกของแต่ละประเทศสมาชิก สามารถหารูปแบบที่ปรับเข้าหาฤดูกาลของสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFC) ได้อย่างเหมาะสม
เกี่ยวกับเรื่องนี้ สำหรับประเทศไทยนั้น สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริษัท ไทยลีก จำกัด ได้มีการหารือร่วมกันกับ สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ถึงการจัดสรรสิทธิการเข้าร่วมการแข่งขันรายการ AFC Champions League 2023/24 ให้เป็นไปตามการปรับเปลี่ยนฤดูกาลการแข่งขันใหม่ มีข้อสรุปว่าสิทธิการเข้าร่วมการแข่งขันของทีมจากไทย จะยังคงเป็นโควต้า 2+2 ทีม (2 ทีมสู่รอบแบ่งกลุ่ม, 2 ทีมสู่รอบคัดเลือก)
เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม และเป็นธรรมต่อสโมสรสมาชิก และการแข่งขันฟุตบอลภายในประเทศ บริษัท ไทยลีก จำกัด จึงได้เสนอแนวทางในการใช้โควต้านำทีมจาก 2 ฤดูกาลของฟุตบอลไทย ได้แก่ แชมป์ฟุตบอลลีกสูงสุด + แชมป์ฟุตบอลถ้วย (จากฤดูกาล 2021/22) และ แชมป์ฟุตบอลลีกสูงสุด + แชมป์ฟุตบอลถ้วย (จากฤดูกาล 2022/23)
ขณะที่การพิจารณาเพื่อจัดสรรโควต้า จะคัดเลือกทีมและจัดลำดับความสำคัญจาก Entry Manual For AFC Club Competitions ตามหลักเกณฑ์ในหมวด Sporting Cirteria (อ้างอิงจาก the-afc.com) โดยให้สิทธิทีมตามลำดับความสำคัญ ดังนี้
ทีมชนะเลิศ ลีกสูงสุดภายในประเทศ (โควต้ารอบแบ่งกลุ่ม)
ทีมชนะเลิศ ฟุตบอลถ้วยในประเทศ (โควต้ารอบคัดเลือก)
และโควต้าสำรอง ดังนี้
ทีมอันดับ 2 ลีกสูงสุดภายในประเทศ
ทีมอันดับ 3 ลีกสูงสุดภายในประเทศ
อย่างไรก็ตาม บริษัท ไทยลีก จำกัด ได้หารือร่วมกับ สโมสรสมาชิกที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพื่อประชุมชี้แจงแนวทาง โดยได้ข้อสรุปจากเสียงส่วนใหญ่ให้เป็นไปตามการจัดลำดับความสำคัญดังกล่าว ซึ่งในลำดับต่อไป จะมีการนำเสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุมสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และนำเสนอต่อ สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFC) ต่อไป
ไทยลีก ยังคงเดินหน้าเพื่อสร้างบรรทัดฐานและความมั่นคงของฟุตบอลภายในประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับและเพิ่มสิทธิในการเข้าร่วมฟุตบอลรายการสำคัญระดับทวีปต่อไปในอนาคต
ส่งผลให้ ทีมอันดับสองอย่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จากที่จะได้เล่นรอบแบ่งกลุ่ม ต้องลุ้นให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ ช้าง เอฟเอ คัพ ถึงจะได้ไปเล่นรอบเพย์ออฟเท่านั้น แต่ถ้าหาก นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ได้แชมป์ “สวาทแคท” ก็จะได้สิทธิไปเล่นทันที
ส่วนอันดับที่ 3 อย่าง แบงค็อกฯ และอันดับที่ 4 อย่าง เมืองทองฯ ที่เดิมมีลุ้นโควต้าหาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ ช้างเอฟเอ คัพ ก็อดได้ตั๋ว ACL ทั้งคู่ ต้องไปลุ้นกันใหม่ซีซั่นหน้า