พลิกล็อกหักปากกาเซียนทุกสำนัก!!
กับชัยชนะของ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ที่มีเหนือทีม “เต็งแชมป์” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-1 ในเกมตัดเชือกบอล เอฟเอคัพ เมื่อค่ำวันพุธที่ผ่านมา
ทำให้ ชลบุรี ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศถ้วยใบนี้ (อีกครั้ง) ในรอบ 7 ปีเต็ม โดยจะเข้าไปเจอกับ “กว่างโซ้งมหาภัย” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่หักด่านเอาชนะ ทรู แบงค็อกฯ มาได้ด้วยสกอร์เดียวกัน
นับเป็นการคว้าชัยที่เหนือความคาดหมายสุดๆ อีกครั้งนึง ของฟุตบอลไทยเลยก็ว่าได้ เพราะก่อนลงสนามไม่มีเกจิหน้าไหนกล้าวิจารณ์แหกโผว่า ชลบุรี จะพลิกชนะเกมนี้
ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงต่อเนื่อง และสภาพทีมที่สมบูรณ์แบบทุกขุมกำลังของทัพปราสาทสายฟ้า
ขณะที่แข้งฉลามมีแต่นักเตะพลังหนุ่มประสบการณ์น้อย และยังต้องขาด เรนาโต้ เคลิซ ปราการหลังตัวสำคัญ ที่ชวดลงสนามเพราะยืมตัวมาจากบุรีรัมย์
นั่นจึงทำให้แทบทุกคนต่างฟันธงไปในทางเดียวกันเลยว่า นักเตะเซราะกราวคงไม่พลาดที่จะเข้าชิงได้ตามเป้าแหงๆ เผลอๆ ถ้ายิงได้เร็วสกอร์อาจไหลไปถึง 2-3 ลูก เลยด้วยซ้ำ!!
แต่ที่ไหนได้พอเอาเข้าจริง พลพรรคลูกน้ำเค็มกลับพลิกคำวิจารณ์ เตรียมตัวมารับมือกับเกมบุกของบุรีรัมย์ได้อย่างน่าชื่นชม แถมยังเล่นเกมสวนกลับแต่ละดอกได้อย่างสุดอันตราย
เล่นเอาทีมเต็งแชมป์ถึงกับหงายเก๋งไปไม่เป็น เพราะตลอดทั้งแมตช์ครองเกมรุกได้มากกว่าก็จริง แต่หาจังหวะจบแทบไม่เจอ
ผิดกับ ชลบุรี ที่จังหวะโต้ทำได้อย่างเฉียบขาด (กว่า) สวนแต่ละทีแนวรับเซราะกราวสะดุ้งเฮือก
และสุดท้ายก็ฉวยจังหวะสอยประตูเขี่ยยอดทีมอีสานใต้ ร่วงตกรอบไปอย่างพลิกความคาดหมายที่สุด
เครดิตการเข้าชิงบอลถ้วยในครั้งนี้ นอกจากจะยกให้ความใจสู้บู๊ไม่ถอยของนักเตะฉลามเลือดใหม่แล้ว
ต้องซูฮกใน “กึ๋น” การทำทีมแบบ ‘ใจแลกใจ’ ของ “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ กุนซือใหญ่ของชลบุรี เขาด้วย
ที่ผ่านมา เด็กฉลามชลยุคใหม่ ล้มลุกคลุกคลาน โดนบูลลี่ และดูถูกต่างๆ นานา ว่าไม่เอาไหน และไม่น่าจะไปรอดในลีกสูงสุด
มีเพียง “โค้ชเตี้ย”เพียงคนเดียว ที่มองเห็นแววโรจน์ในตัวพวกเขา และพยายามผลักดันให้แต่ละคน ได้ลงไปโชว์ฟอร์มในสนามอย่างต่อเนื่อง
ขนาดยอมเสี่ยงเอาผลงาน และชื่อเสียงของตัวเองเข้าแลก จนต้องมาหนีตกชั้นในช่วงโค้งสุดท้ายก็ยังทำ
เพื่อแลกกับอนาคตอีกยาวไกลของขุมพลังฉลามยังบลัดชุดนี้
ยังดีที่ผู้บริหาร ชลบุรี ทั้ง ประธานสโมสร วิทยา คุณปลื้ม, อรรณพ สิงห์โตทอง รวมทั้ง “บิ๊กบอล” ศศิศ สิงห์โตทอง ผจก.ทีมหนุ่มไฟแรง เข้าอกเข้าใจในแนวทางของโค้ชสะสมมาโดยตลอด
ทำให้เขายังคงแน่วแน่กับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะโดนกระแสวิพากษ์ วิจารณ์หนักจากแฟนบอลรอบทิศ
ที่มองว่าเขาเป็นตัวตลก หรือเป็นได้แค่ ‘โค้ชคอมเมนเตเตอร์’ ที่เก่งแต่หน้าจอทีวีอย่างเดียว ก็ตามที
แต่ “โค้ชเตี้ย” ก็ยังเชื่อมั่นว่า เขาเดินมาถูกทางแล้ว กับการสร้างรากฐานให้นักเตะเจนใหม่ของชลบุรี ที่ล้วนแล้วแต่คุณภาพคับแก้วได้มีโอกาสโชว์ “ของ” อย่างเต็มเหนี่ยว
ประมาณว่า ใครไม่เชื่อว่าพวกเอ็งมีดีไม่เป็นไร แต่คนเป็นโค้ชอย่างเขานี่แหละ.. เชื่อว่าทุกคนต้องทำได้
มีสายรายงานมาว่า หลังการซ้อมมื้อสุดท้ายก่อนลงตัดเชือกกับบุรีรัมย์ “โค้ชเตี้ย” ปลุกเร้าเด็กฉลามทุกวิถีทาง
ขนาดถึงกับลงทุนคุกเข่าไหว้ลูกทีมหน้าแถว ขอให้ทุกคนสู้ตายถวายหัว เอาชัยชนะเหนือเซราะกราวมาให้ได้
เพื่อทั้งโลกจะได้จดจำพวกเรา และจะไม่มีใครกล้าดูถูก ‘ชลบุรี เอฟซี’ อีกต่อไป
ซึ่งในที่สุดพลพรรคฉลามหนุ่ม ก็ตอบแทนความเชื่อมั่นของ “โค้ชเตี้ย”
ด้วยผลงานชิ้นโบแดง…อย่างที่ทุกคนได้เห็นกัน !!!
บี บางปะกง