เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
บุรีรัมย์– สสจ.บุรีรัมย์พร้อมสาธารณสุขอ.เฉลิมพระเกียรติ และตัวแทนบริษัทผลิตจำหน่ายปลากระป๋องยี่ห้อดัง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงหัวไขควงเหล็กโผล่ในปลากระป๋องยี่ห้อดัง บริษัทยันกระบวนการผลิตมีมาตรฐานมีเครื่องตรวจจับที่ทันสมัยโอกาสที่โลหะจะเล็ดลอดแทบไม่มี
วันนี้ ( 7 มิ.ย.) ความคืบหน้ากรณีที่นายปรีชา มีพวงผล อายุ 48 ปี ชาวบ้านบ้านยาง ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ พบสิ่งแปลกปลอมลักษณะคล้ายหัวไขควงเหล็กในปลากระป๋องยี่ห้อดัง ขณะนำมาประกอบอาหารกินข้าวเย็นกับแม่ ซึ่งนายปรีชา พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปยังเบอร์ที่ระบุไว้ข้างกระป๋องเพื่อแจ้งให้ทางบริษัททราบ แต่ไม่มีคนรับสายจึงได้นำเรื่องราวมาเปิดเผยผ่านสื่อ เพื่อให้ทางบริษัทได้ใส่ใจเรื่องความสะอาดและรอบคอบในขั้นตอนการผลิตให้มากขึ้น โดยไม่ได้มีเจตนาจะทำให้บริษัทเสียหาย และไม่ได้ต้องการเรียกร้องความรับผิดชอบอะไร ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ นางกนกพร ชนะค้า หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายวิชัย เจริญสุข สาธารณสุขอำเภอเฉลิมพระเกียรติ และตัวแทนจากทางบริษัทผู้ผลิตปลากระป๋องยี่ห้อดัง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาที่มาที่ไปว่าหัวไขควงเหล็กไปอยู่ในปลากระป๋องได้อย่างไร หรือเกิดจากกระบวนการผลิตหรือไม่ ซึ่งจากการสอบถามนายปรีชา ในฐานะผู้บริโภคก็ยืนยันว่าพบไขควงเหล็กในปลากระป๋องจริง ไม่มีใครเอาใส่หรือกลั่นแกล้งอย่างแน่นอน
ทางตัวแทนบริษัทก็จะได้เก็บวัตถุแปลกปลอมหรือหัวไขควงเหล็กที่พบพร้อมปลากระป๋องดังกล่าว กลับไปตรวจสอบที่บริษัท เพื่อหาที่มาของหัวไขควงเหล็กดังกล่าวว่ามาอยู่ในปลากระป๋องได้ยังไง เพราะที่ผ่านมาทางบริษัทมีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย รวมถึงเครื่องจักรก็ผ่านการตรวจสอบจากสภาอุตสาหกรรม ที่สำคัญจะมีเครื่องตรวจจับโลหะที่ทันสมัย หากมีการตรวจพบวัตถุหรือโลหะปะปน เครื่องจะหยุดทำงานทันที ดังนั้นโอกาสที่จะมีสิ่งแปลกปลอมปะปนน้อยมาก และเคสนี้ถือเป็นเคสแรกที่พบโลหะในปลากระป๋อง ดังนั้นจะต้องการมีตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ก็ยังให้ความมั่นใจกับผู้บริโภคว่าทางบริษัทใส่ใจเรื่องความสะอาดอย่างเต็มที่
จากนั้นยังได้ไปดูจุดที่นำปลากระป๋องไปประกอบอาหารในวันที่พบหัวไขควงเหล็ก ซึ่งแม่ของนายปรีชา ยืนยันว่าเป็นคนประกอบอาหารเมนู “น้ำพริกกะทิปลากระป๋อง” ด้วยตัวเอง ยืนยันว่าไม่มีอะไรตกใส่วัตถุดังกล่าวอยู่ในปลากระป๋องจริง
ด้าน นางกนกพร ชนะค้า หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบและสอบถามข้อมูลจากผู้บริโภค มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ว่าวัตถุดังกล่าวปะปนอยู่ในปลากระป๋องจริง แต่เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายก็ต้องรอให้ทางบริษัทตรวจสอบอย่างละเอียดถึงที่ไปที่มาของวัตถุดังกล่าว ซึ่งวันนี้ทางบริษัทให้ความสำคัญโดยส่งตัวแทนลงพื้นที่มาตรวจสอบด้วยตัวเอง พร้อมทั้งเก็บวัตถุดังกล่าวกลับไปตรวจพิสูจน์ที่บริษัทด้วย เพื่อจะได้ทราบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร เพื่อจะได้ดำเนินการตามกระบวนการต่อไป ส่วนตัวผู้บริโภคเองไม่มีความประสงค์ที่จะเรียกร้องความรับผิดชอบจากทางบริษัทแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยากฝากถึงผู้ผลิตว่าให้ใส่ใจเรื่องความสะอาดด้วย
ด้านนายปรีชา บอกว่า รู้สึกดีใจที่ทางสาธารณสุข และตัวแทนบริษัทได้มาสอบถามและตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ส่วนตัวไม่ได้ติดใจหรือเรียกร้องความรับผิดชอบอะไร แค่อยากฝากให้ทางบริษัทใส่ใจในกระบวนการผลิตและเรื่องความสะอาดเท่านั้น