นักเรียน ม.ปลาย จ.บุรีรัมย์ ถูกบังคับเซ็นใบลาออกเพราะไม่รักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์

นักเรียน ม.ปลาย ใน จ.บุรีรัมย์ ถูกโรงเรียนสั่งคุมความประพฤติและบังคับเซ็นใบลาออก โดยอ้างว่าไม่ผ่านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คือ ‘รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์’ เนื่องจากทำกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองทั้งในและนอกโรงเรียน

9 เม.ย. 2564 เฟซบุ๊ก นักเรียนเลว โพสต์ข้อความระบุว่านักเรียนใน จ.บุรีรัมย์ ได้รับคำสั่งควบคุมความประพฤติและถูกบังคับให้เซ็นใบลาออก เนื่องจากไม่ผ่านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ข้อ 1 ของทางโรงเรียน คือ ‘รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์’ เพราะนักเรียนคนดังกล่าวทำกิจกรรมเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยภายในโรงเรียน เช่น การวางพวงหรีดไว้อาลัยความยุติธรรมบริเวณหน้าเสาธงของโรงเรียน โดยเฟซบุ๊ก นักเรียนเลว ระบุเพิ่มเติมว่า หากมีการกระทำความผิดซ้ำ ทางโรงเรียนจะถือว่าใบลาออกนั้นมีผลโดยทันที

ผู้สื่อข่าวประชาไทติดต่อไปยัง กันตพัฒน์ มาตรบรรเทา นักเรียนชั้นมัธยมปลายของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ ผู้ถูกบังคับเซ็นใบลาออกเนื่องจากโรงเรียนอ้างว่ามีคุณลักษณะไม่พึงประสงค์ตามที่ปรากฏในข่าว เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย กันตพัฒน์ กล่าวว่าตนเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย และสิทธิเสรีภาพทั้งในและนอกโรงเรียนอยู่หลายครั้ง เช่น ร่วมแต่งชุดไปรเวทไปโรงเรียน ติดป้ายยกเลิก 112 และโพสต์ข้อความวิจารณ์ท่าทีของผู้อำนวยการโรงเรียนต่อการทำกิจกรรมของนักเรียนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว จึงถูกเพ่งเล็งจากครูในโรงเรียน และเป็นเหตุให้ทางโรงเรียนส่งหนังสือเชิญผู้ปกครองให้เข้าพบเพื่อรับทราบพฤติกรรมและขอให้ผู้ปกครองดูแลความประพฤติของตน

กันตพัฒน์ กล่าวว่า โรงเรียนเสนอเงื่อนไขให้ตนเข้าค่ายปรับปรุงพฤติกรรมเนื่องจากไม่ผ่านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ข้อ 1 ‘รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์’ แต่ตนปฏิเสธการเข้าค่ายดังกล่าว ทางโรงเรียนจึงมีคำสั่งควบคุมความประพฤติ พร้อมเซ็นใบลาออก โดยระบุเงื่อนไขว่าหากกระทำผิดในลักษณะเดิมอีก จะถือว่าใบลาออกมีผลทันที

กันตพัฒน์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตนคิดว่าโรงเรียนควรเป็นที่ที่เปิดกว้างและให้เสรีภาพทางความคิดแก่นักเรียน แต่ท้ายที่สุด โรงเรียนกลับเป็นผู้คุกคามและละเมิดสิทธิเสรีภาพของนักเรียนเสียเอง พร้อมฝากถึง ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ ว่าต้องเร่งปฏิรูปการศึกษาโดยเร็วที่สุด เพราะทุกวันนี้มีนักเรียนจำนวนมากที่ถูกโรงเรียนคุมคามและข่มขู่

ทั้งนี้ กันตพัฒน์ เผยว่า ตนได้รับกำลังใจดีจากเพื่อนและครอบครัว แต่ไม่ได้รับการแสดงท่าทีใดๆ จากครูในโรงเรียน พร้อมเผยว่าหลังจากนี้ ตนจะลดบทบาทการทำกิจกรรมลง แต่ขอยืนยันในอุดมการณ์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยดังเดิม