เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
บุรีรัมย์- กลุ่มโปรโมเตอร์มวยพร้อมหัวหน้าค่ายและนักมวย 50 ค่ายใน จ.บุรีรัมย์ จากทั้งหมดกว่า 200 ค่าย บุกยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ “นายก อบจ.-ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์” ขอให้มีมาตรการผ่อนคลายจัดชกมวยได้ เผยซมพิษโควิด-19 ขาดรายได้เดือดร้อนหนักและต้องทนแบกภาระค่าเลี้ยงดูนักมวย ขณะ อบจ.บุรีรัมย์ เด้งรับหาก ศบค.อนุญาต เตรียมจัดเวทีกลางจัดชกถ่ายทอดสด รับเปิดเมืองท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ
วันนี้ ( 29 มิ.ย. ) นายพุทธิพงษ์ ปลุกรัมย์ หัวหน้าค่ายมวย ส.พวงทอง พร้อมตัวแทนบุคคลในวงการมวย มีทั้งโปรโมเตอร์มวย กรรมการมวย เจ้าของค่ายมวย และนักมวยที่อยู่ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ รวมกว่า 50 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือข้อร้องเรียนต่อ นายภูษิต เล็กอุดากร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ( อบจ.) บุรีรัมย์ ที่ห้องประชุมชั้น 3 อบจ.บุรีรัมย์ ก่อนเดินทางไปยื่นหนังสือต่อกับ นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อขอปรึกษาหารือแนวทางในการจัดการแข่งขันกีฬามวย หรือขอให้ทางจังหวัดมีการอนุญาตจัดให้มีการชกมวยขึ้นในจังหวัด
หลังได้รับความเดือดร้อน และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลกระทบต่อบุคคลในวงการมวย เนื่องจากนักมวยไม่มีรายการชกจึงทำให้ขาดรายได้ แต่ทางค่ายมวยยังจะต้องมีภาระค่าเลี้ยงดูนักมวยเหมือนเดิม ทั้งค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายๆ อีกทั้งนักมวยจะต้องทำการฝึกซ้อมมวยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีสภาพร่างกายที่พร้อมอยู่เสมอ หากหยุดซ้อมกว่าจะฟื้นคืนสภาพร่างกายกลับคืนมาจะยาก บางทีนักมวยอาจจะเลิกชกไปเลย
ทางตัวแทนบุคคลในวงการมวย จ.บุรีรัมย์ จึงขอความร่วมมือทางจังหวัดได้ส่งเสริมกีฬามวย หากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ขอให้มีการผ่อนคลายมาตรการให้มีการจัดกิจกรรมทางกีฬาได้ หากมีการจัดชกมวยเกิดขึ้น บุคคลในวงการมวยก็จะมีรายได้
ทั้งนี้ หลังรับหนังสือร้องเรียนทาง นายก อบจ.บุรีรัมย์ และผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ จะได้นำเรื่องร้องเรียนดังกล่าวเสนอต่อ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. เพื่อดำเนินการพิจารณาต่อไป ซึ่งเบื้องต้นทาง อบจ. ได้เตรียมความพร้อมให้การช่วยเหลือสนับสนุน หากทาง ศบค.อนุมัติให้มีการผ่อนคลายและจัดกีฬาชกมวยขึ้นได้ ทาง อบจ. จะได้ดำเนินการจัดหา และจัดเตรียมสถานที่ เพื่อใช้ในการจัดชกมวย ซึ่ง อบจ.มีสถานที่จัดชกมวยที่สามารถรองรับคนเข้าชมได้มากกว่า 2,000 คน และสามารถดำเนินการป้องกันได้ ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
นายพุทธิพงษ์ ปลุกรัมย์ หัวหน้าค่ายมวย ส.พวงทอง กล่าวว่า ค่ายมวยของตนมีนักมวยอยู่ในความดูแลกว่า 10 คน ส่วนใหญ่อยู่ในวัยเรียนทั้งสิ้น ที่มีพ่อแม่ผู้ปกครองนำมาฝากให้ดูแลฝึกซ้อมชกมวย ซึ่งตนจะต้องรับภาระค่าเลี้ยงดูทั้งหมด ทั้งค่าอาหาร ค่าเดินทางไปโรงเรียน และค่าใช้จ่ายต่างๆ แต่หลังจากเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้นักมวยไม่มีรายการชก จึงขาดรายได้ที่จะมาดูแล จึงขอให้ทางจังหวัดได้ดำเนินการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เพื่อให้มีการจัดชกมวยเกิดขึ้น เพราะถ้ามีรายการชกทางค่ายก็จะมีรายได้เข้ามาใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งทางค่ายมวยก็พร้อมที่จะดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกันต่างๆของ ศบค.
ด้าน นายกุหลาบ แสนจันทร์ โปรโมเตอร์มวย และเจ้าของค่ายมวยเพชรหนองกี่ เปิดเผยว่า ในห้วงที่ผ่านมา นักมวยและบุคลในวงการมวยได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก บางค่ายมวยถึงกับต้องปิดตัวลง เพราะทนแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว เนื่องจากนักมวยส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียน นักศึกษาแทบทั้งสิ้น ที่พ่อแม่มีฐานะยากจน แล้วนำมาฝากฝึกซ้อมมวย เพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว ซึ่งความรับผิดชอบดูแลและค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ที่หัวหน้าค่าย ก่อนหน้านี้มีรายการชกทำให้ค่ายมวยและนักมวยมีรายได้จากการชก แต่หลังจากเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 และไม่มีรายการชกมวย ทำให้ทั้งค่ายมวยและนักมวยขาดรายได้ แต่ทว่าค่ายมวยยังจะต้องมีค่าใช้จ่ายอยู่ตลอด จึงขอให้ทางจังหวัดได้ช่วยผ่อนคลายมาตรการ เพื่อให้มีการจัดกิจกรรมชกมวยได้
ขณะที่ นายภูษิต เล็กอุดากร นายก อบจ.บุรีรัมย์ กล่าวว่าทาง อบจ.บุรีรัมย์ ได้มีการเตรียมแผนดำเนินการไว้แล้วเช่นเดียวกัน ตามอำนาจขอบเขตหน้าที่ของ อบจ. โดยเตรียมจะดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ การกีฬาแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยว และสมาคมมวย เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือบุคคลในวงการมวย รวมถึงในวงการกีฬาต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 โดยเฉพาะวงการมวยจากข้อมูลทราบว่าทั้ง จ.บุรีรัมย์ มีค่ายมวยอยู่กว่า 200 ค่าย และมีนักมวยอยู่กว่า 600 คน โดยในอนาคตอันใกล้ จ.บุรีรัมย์ จะมีการเปิดเมือง เพื่อรองรับการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายก อบจ.บุรีรัมย์ กล่าวต่อว่า จากนี้จะได้เตรียมแผนดำเนินการให้ความสนับสนุนช่วยเหลือ หากทาง ศบค.มีมาตรการผ่อนคลาย โดยจะมีการจัดเตรียมสถานที่สำหรับจัดการแข่งขัน สามารถจุคนได้กว่า 2,000 ที่นั่ง แต่จะอนุญาตให้เข้าชมได้ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ และมีการดำเนินการป้องกันตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งการเว้นระยะห่าง ต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบมาแล้ว 2 เข็ม อีกทั้งตัวนักมวยที่จะมาทำการชกจะต้องมาทำ CPR ก่อนการชกตามกฎของ ศบค. ส่วนผู้เข้าชมก็จะต้องปฏิบัติตามมาตรการของคณะกรรมการควบคุมโรคกำหนดไว้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด
“ถ้าหากมีการจัดชกมวยขึ้น อบจ.บุรีรัมย์ เราจะได้มีการจัดถ่ายทอดสดทางสื่อออนไลน์ต่างๆ ทั้งยูทูป เฟซบุ๊ก เป็นต้น เพื่อให้แฟนมวยที่อยู่ทางบ้าน สามารถรับชมการแข่งขันแบบสดๆได้ จะได้ไม่ต้องเดินทางมาชมที่สนาม รวมถึงอาจมีการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางต่างๆ ด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ หากมีการผ่อนคลายให้จัดชกมวยขึ้น” นายภูษิต กล่าว