![This image is not belong to us](https://static.thairath.co.th/media/dFQROr7oWzulq5Fa4VnH9WkeR7jxLh62qBpzew6vBCZuj9JTmWzOL6hYKeS5SjdqdHQ.jpg)
ศึกษาธิการจังหวัดบุรีรัมย์ สั่งพักราชการครูหนุ่มสอนวิชาคณิตศาสตร์ที่ตกเป็นข่าว กระทำชำเราลูกศิษย์ ม.1 หลังผลสอบพบมีมูลจริง พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และจัดส่งครูแนะแนวร่วมทีมนักจิตวิทยาเยียวยาสภาพจิตใจเด็ก และเรื่องการเรียน ขณะที่ตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนส่งอัยการ
กรณีที่ผู้ปกครองชาวอำเภอกระสัง จ.บุรีรัมย์ นำหลักฐานคลิปวิดีโอที่ถูกแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์ และข้อความแชตสนทนาที่ไม่เหมาะสมระหว่างครูประจำชั้นกับลูกสาวของตัวเอง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.กระสัง ให้ดำเนินคดีกับนายโอ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นครูประจำชั้นและครูสอนวิชาคณิตศาสตร์โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในอำเภอกระสัง ที่หลอกล่อกระทำชำเรา ด.ญ.บี (นามสมมติ) ลูกสาวของตัวเองซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.1 ทั้งยังมีการแอบถ่ายคลิปขณะครูมีสัมพันธ์กับลูกสาวในห้องน้ำของโรงเรียน นำไปแชร์ในโลกโซเชียลอีกด้วย ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับลูกสาวของตัวเอง
กระทั่งเมื่อวานนี้ (10 มี.ค.64) นายโอ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ครูที่ถูกกล่าวหาได้เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.กระสัง โดยได้ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหาเพราะจำนนด้วยหลักฐาน โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้ง 3 ข้อหา “กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, กระทำชำเราเด็กซึ่งเป็นลูกศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล และพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครอง และผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุอันสมควร” ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ นั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2564 นางวิมลมาลย์ รินไธสง ศึกษาธิการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาระบุว่า หลังจากทางโรงเรียนได้สรุปผลการสืบสวนข้อเท็จจริง ส่งมายังทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาต้นสังกัด ว่าครูที่ถูกกล่าวหามีมูลกระทำความผิดจริง ทางสำนักงานเขตมัธยมฯ ก็ได้ทำเรื่องส่งมายังศึกษาธิการจังหวัด ล่าสุดวันนี้ทางศึกษาธิการจังหวัดจึงได้มีคำสั่งให้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และสั่งให้ครูคนดังกล่าวพักราชการไว้ก่อนโดยมีผลภายในวันนี้
ทั้งนี้ก็เพื่อให้การสอบวินัยร้ายแรงเป็นการโปร่งใส และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่หากผลการสอบวินัยพบว่าครูคนดังกล่าวกระทำความผิดจริง ก็จะมีบทลงโทษตามระเบียบที่กำหนดไว้ คือ ไล่ออก หรือปลดออก ส่วนเรื่องคดีก็ว่ากันไปตามกระบวนการของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นางวิมลมาลย์ รินไธสง ศึกษาธิการจังหวัดบุรีรัมย์ ยังระบุอีกว่า นอกจากจะดำเนินการเรื่องวินัยแล้ว สิ่งที่เป็นห่วงคือสภาพจิตใจของเด็กผู้เสียหาย ซึ่งทางศึกษาธิการจังหวัดก็ได้สั่งการให้ทางโรงเรียนจัดครูแนะแนว ร่วมกับทีมนักจิตวิทยาเข้าไปดูแลเยียวยาเรื่องสภาพจิตใจของเด็ก พร้อมทั้งดูเรื่องการเรียนควบคู่ไปด้วย ซึ่งช่วงที่เด็กยังไม่สามารถมาเรียนที่โรงเรียนได้ ก็ให้ทำการเรียนการสอนที่บ้านก่อนชั่วคราว จนกว่าเด็กจะมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น จึงจะให้มาเรียนตามปกติ ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้กระทบต่อผลการเรียนของเด็ก.